การเปลี่ยนผู้ให้บริการบำรุงรักษาระบบฯ เป็นการตัดสินใจที่สำคัญต่อธุรกิจ บทความนี้จะให้รายละเอียดของสิ่งที่ต้องพิจารณาในการประเมินและเลือกผู้ให้บริการรายใหม่โดยคำนึงถึงด้านต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าจะส่งผลเชิงบวกต่อธุรกิจและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบ ERP
- MA Services เป็นการดูแลรักษาระบบฯ หลังการติดตั้งหรือใช้งานจริง เพื่อให้ระบบ ERP ทำงานได้ต่อเนื่อง มีเสถียรภาพ และลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาใหญ่ ซึ่งเหตุผลหลักๆของบริการ MA คือ
- การรักษาความต่อเนื่องของระบบฯ (System Availability) – มีทีมซัพพอร์ตที่เข้าใจระบบฯ คอยให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว ลดโอกาสระบบฯ ล่มหรือหยุดชะงัก ทำให้ธุรกิจดำเนินไปได้ไม่สะดุด, มี SLA (Service Level Agreement) – มีระยะเวลาตอบสนอง (Response Time) และเวลาแก้ปัญหา (resolution time) ที่สอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจอย่างชัดเจน
- อัปเดตซอฟต์แวร์และความปลอดภัยทางไซเบอร์อยู่เสมอ – มีการแนะนำการปรับปรุงระบบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ระบบสามารถรองรับการเติบโตของธุรกิจและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป
2. Localisation & Compliance เทมเพลตรายงานภาษีที่ได้มาตรฐานตามที่กรมสรรพากรกำหนด และสอดคล้องกับกฎหมายของประเทศไทย
- รองรับ Thai localisation – ผู้ให้บริการมีความรู้ทางด้านข้อกำหนดทางบัญชีและภาษี เพื่ออัปเดตรูปแบบรายงานและทดสอบการใช้งานให้ได้มาตรฐานอยู่เสมอ เพื่อความต่อเนื่องในการใช้งานและความถูกต้องในการนำส่งภาษี
- มีความเข้าใจในกฎระเบียบ – มีการตรวจสอบและอัปเดตตามการเปลี่ยนแปลงของกฎหมาย หรือกฎระเบียบใหม่ ๆ อยู่เสมอ

3. Source Code & Customisation แต่ละธุรกิจอาจต้องปรับแต่งระบบเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับการทำงาน ซึ่งการเปลี่ยนผู้ให้บริการใหม่จะต้องมีการสำรวจและปรับปรุง source code เพื่อให้การบำรุงรักษาระบบเป็นไปอย่างราบรื่น
- Re-implement บางส่วนของ customisation ให้สอดคล้องกับธุรกิจ
- ตรวจสอบและอัปเดต customisation อยู่เสมอเพื่อให้เข้ากันได้กับการอัปเดตของของระบบ ERP – Dynamics 365 และมีการตรวจสอบ (code review) เพื่อรักษาคุณภาพและความปลอดภัยของโค้ด รวมถึงการทำเอกสารประกอบที่ครบถ้วน
- การโยกย้ายและการปรับเปลี่ยน source code
4. Business Continuity ความต่อเนื่องของธุรกิจเมื่อต้องเปลี่ยนผู้ให้บริการระบบ
- System assessment – ประเมินและศึกษาระบบจากข้อมูลของผู้ให้บริการรายเดิมก่อนทำการพัฒนาต่อ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับข้อมูลและตัวระบบ
- ขั้นตอนการย้ายระบบ – มีแผนการย้ายข้อมูล, โค้ด และ environment อย่างละเอียด รวมถึงการทดสอบใน sandbox environment ก่อนทำการ cut-over จริง
- มีแผนการย้าย, ปรับปรุง, พัฒนา และการอัปเดตที่ชัดเจน เพื่อลด downtime ของระบบ และไม่กระทบต่อการทำงาน
5. Regular updates รายงานความคืบหน้าของงานอย่างสม่ำเสมอ
- มีการรายงานสถานะของงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถติดตามความคืบหน้าได้อย่างสะดวก
- รวบรวม feedback จากลูกค้าเป็นประจำ และใช้ข้อมูลนี้เพื่อปรับปรุงบริการให้ดียิ่งขึ้น
6. Value
- ได้ทีมงานที่มีประสบการณ์เฉพาะด้าน ทำงานเร็ว ลดความผิดพลาด และมี SLA/ บริการหลังการขายที่ดีกว่า
- ได้ระบบที่มีความเสถียรมากขึ้น ช่วยทำให้ธุรกิจแข่งขันได้มากขึ้นในระยะยาว
- ลดค่าใช้จ่ายแฝงจากเหตุการณ์ปรับปรุงระบบไม่สำเร็จ
การเปลี่ยนผู้ให้บริการระบบ ERP ต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบ การประเมินผู้ให้บริการใหม่ในด้านต่าง ๆ ตามรายละเอียดในบทความนี้ คุณจะสามารถเลือกผู้ให้บริการที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการ และเป็นคู่คิดระยะยาวสำหรับธุรกิจของคุณ การมีระบบ ERP ที่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพจะช่วยให้คุณเสริมสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน รองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคตได้อย่างมั่นใจ
สนใจปรึกษาและสอบถามบริการการวางระบบ ERP – Dynamics 365 และบริการหลังการขายเพิ่มเติม หรือ ERP Services โทร 036-343052 หรืออีเมล sale@alphametrics.co.th